ทำไม...อะไร...เราถึงมองเห็นสิ่งสวยงามบนโลกใบนี้
แสงทำให้เรามองเห็นความสดใสของโลกเรา ทั้งแสงอาทิตย์และแสงที่มนุษย์สร้างขึ้น ซึ่งจะมีทั้งแสงที่ตามองเห็นด้วยตาเปล่าและมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า และมีประโยชน์มากต่อสรรพสิ่งบนโลกใบนี้ ด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศของโลก
ในชีวิตประจำวันมีแสงมากมายที่เรารู้จักและไม่รู้จัก...รูปด้านล่างแสดงถึงคลื่นแสงที่มีอยู่บนโลกของเรา มีอะไรบ้างมาทำความรู้จักกัน
คุณทราบหรือไม่ว่า แสงมีชื่อเรียกด้วยนะ...โดยจะแบ่งชื่อเรียกตามความยาวคลื่น ดังนี้
ความยาวคลื่นน้อยกว่า 0.001 nm มีชื่อเรียกว่า รังสีแกมมา (Gamma rays) แพทย์ใช้การถ่ายภาพรังสีแกมมาเพื่อดูภายในร่างกายของคุณ
" nm ย่อมาจาก nano meter (นาโนเมตร) นาโน มีค่าเท่ากับ 0.000000001 หรือ 10 x 10-9 เมตร "
ความยาวคลื่น 1 nm ถึง 10 nm มีชื่อเรียกว่า รังสีเอ็ก (X-ray) ทันตแพทย์ใช้รังสีเอกซ์เพื่อสร้างภาพฟันของคุณ แพทย์ใช้ในการช่วยวินิจสัยเกี่ยวกับปอดและกระดูก และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่สนามบินใช้เพื่อตรวจดูภายในกระเป๋าของคุณ
แสงอันต่อไปทุกท่านอาจจะคุ้นเคยและรู้จักกันดี มีชื่อว่า อัลตร้าไวโอเลต (Ultra Violat ) หรือเรียกสั้นๆ ว่า ยูวี (UV) มีความยาวคลื่น 100 nm ถึง 399 nm แสง UV ถูกแยกออกเป็น 3 ระดับ ดังนี้
UVA มีช่วงความยาวคลื่น 315 - 399 nm ซึ่งสามารถทะลุผ่านชั้นบรรยากาศของโลกลงมาได้ หากสัมผัสในระยะเวลานานๆ จะสามารถทำลายคอลลาเจนและอิลาสตินให้เสื่อมโทรมจนหมดความยื่นหยุ่น ส่งผลให้ผิวหนังเกิดความเหี่ยวย่น แต่ไม่ทำให้เกิดการอักเสบของผิวหนัง
UVB มีช่วงความยาวคลื่น 280 - 314 nm ชั้นบรรยากาศของโลกสามารถดูดซับรังสี UVB ได้แต่ก็ไม่ทั้งหมดยังมีบางส่วนที่สามารถทะลุผ่านลงมายังพื้นโลกได้ เมื่อสัมผัสโดนผิวหนังจะผ่านเข้าไปยังชั้นผิวหนังกำพร้าและผิวหนังแท้ด้านบน ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ผิวหนังไหม้ จนถึงระดับรุนแรงก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้
UVC มีช่วงความยาวคลื่น 100 - 279 nm แสงช่วงนี้โดยส่วนใหญ่จะถูกดูดซับโดยชั้นบรรยากาศของโลกที่ชั้นก๊าซโอโซน แต่หากในอนาคตก๊าซโอโซนถูกทำลาย ก็ส่งผลให้ร่างการได้รับรังสี UVC ก็เป็นไปได้ และเป็นอันตรายกับสิ่งมีชีวิตแน่นนอน
แสงในย่าน UV ตาของมนุษย์ไม่สามารถมองเห็นได้ แต่ทำไม่เราถึงมองเห็นส่งต่างๆ บนโลกใบนี้ได้ ก็เพราะแสงช่วงความยาวคลื่นต่อไปที่ช่วงความยาวคลื่น 400 - 750 nm แสงช่วงนี้มีชื่อเรียกว่า Visible right นั่นเอง ซึ่งในช่วงความยาวคลื่นนี้สามารถแยกออกเป็นสีต่างๆ ดังตารางด้านขวา ซึ่งสี่ต่างๆ เหล่านี้ทำให้เราสามารถมองเห็นวัตถุสิ่งของเป็นสีต่างนั่นเอง
ระหว่างช่วงความยาวคลื่นแสง UVA และ Visible light จะมีแสงอีกชื่อหนึ่งที่ทุกท่านอาจจะคุ้นเคยคือ แสงสีฟ้า หรือ Blue light ซึ่งมีชื่อเต็มว่า High Energy Visible (HEV) light แสงช่วงนนี้จะเป็นอัตรายโดยตรงกับดวงตาของเรา และยังมีผลกระทบกับผิวหนังของเราอีกด้วย
แสงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของเราคือ อินฟาเรด (Infrared) มีความยาวคลื่นอยู่ในช่วง 750 - 10000 nm แสงช่วงนี้จะนำไปใช้ในการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย แว่นสายตากลางคืนรับแสงอินฟราเรดที่ปล่อยออกมาจากผิวหนังและวัตถุของเราด้วยความร้อน
ช่วงความยาวคลื่น 1 มิลลิเมตร ถึง 1 เมตร มีชื่อว่า คลื่นไมโครเวฟ (Micro Waves) การแผ่รังสีไมโครเวฟจะทำให้ข้าวโพดคั่วของคุณสุกในเวลาเพียงไม่กี่นาที และยังถูกใช้โดยนักดาราศาสตร์เพื่อศึกษาเกี่ยวกับโครงสร้างของกาแลคซีใกล้เคียง
คลื่นแสงที่มีความยาวคลื่นมากกว่า 1 เมตร มีชื่อเรียกว่า คลื่นวิทยุ (Radio Waves) ซึ่งวิทยุของคุณจะจับคลื่นวิทยุที่ปล่อยออกมาจากสถานีวิทยุและทำให้คุณได้ฟังเพลงโปรด นอกจากนี้คลื่นวิทยุยังถูกปล่อยออกมาจากดาวและก๊าซในอวกาศอีกด้วย
แหล่งอ้างอิง
ความคิดเห็น