ข้อควรระวังและความปลอดภัยในการเลือกใช้สบู่สมุนไพรจากธรรมชาติ

สบู่สมุนไพรธรรมชาตินับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกหนึ่งของสาว ๆ สายคลีนผู้รักสุขภาพและความงาม ด้วยสรรพคุณที่จับต้องได้ ทำให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่เหรียญย่อมมีสองด้านเสมอ ไม่ว่าจะมีสรรพคุณดีอย่างไรก็ตาม หากใช้ไม่ถูกทาง หรือใช้ไม่เหมาะสมก็อาจทำให้เกิดโทษได้เช่นกัน วันนี้เราจะไปดูถึงข้อควรระวังในการใช้สบู่สมุนไพรกัน

สิ่งที่ต้องระวังในการเลือกใช้ และความปลอดภัยของสบู่สมุนไพร

1. ควรเลือกใช้ให้เหมาะกับสภาพผิวของเรา - ข้อนี้สำคัญมาก เพราะสบู่สมุนไพรแต่ละประเภทจะเหมาะกับการใช้ในสภาพผิวที่แตกต่างกัน เราต้องรู้จักสภาพผิวของเราเองก่อนเป็นอันดับแรก ถ้าเราเป็นคนผิวมัน ต้องหลีกเลี่ยงการใช้สบู่น้ำมันธรรมชาติ เพราะจะยิ่งทำให้มีปริมาณน้ำมันในผิวมากยิ่งขึ้น แทนที่จะช่วยลดการเกิดสิว ก็อาจจะกลายเป็นว่าเกิดสิวมากขึ้นกว่าเดิมก็เป็นได้ เป็นต้น หากเลือกใช้สบู่ที่ไม่เหมาะสมกับผิว อาจทำให้เกิดโรคผิวหนังต่าง ๆ ตามมาได้ เช่น ผิวหนังลอก แห้งเป็นขุย ผิวหนังเหี่ยว เป็นรอยแตก ทำให้คันเป็นโรคผิวหนังร้ายแรงตามมาได้ นอกจากนี้ต้องดูด้วยว่าเรามีอาการแพ้สารอะไรในสบู่ที่นำมาใช้บ้าง เพราะถ้าใช้แล้วเกิดอาการแพ้ขึ้นมา จากที่จะช่วยรักษาให้ดีขึ้น กลับจะยิ่งทำให้แย่ลงกว่าเดิม ดังนั้น ก่อนเลือกใช้ให้วิเคราะห์สภาพร่างกายและผิวของเราก่อนเป็นอย่างแรก

   
   

2. หลีกเลี่ยงสบู่สมุนไพรธรรมชาติที่หมดอายุ - สมุนไพรเป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติ จึงมีระยะเวลาในการใช้งานไม่ยาวนานนัก การเลือกซื้อสบู่ประเภทนี้ต้องดูวันหมดอายุที่ระบุไว้ข้างกล่อง และไม่ควรนำมาใช้โดยเด็ดขาดหากเกินจากวันหมดอายุ เพราะอาจทำให้ติดเชื้อที่ไม่พึงประสงค์ที่มาจากสบู่ได้ เช่น เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และเชื้อโรคอื่น ๆ อันทำให้เกิดโรคร้ายแรงตามมาได้

   
   

3. ศึกษาข้อเสียของสบู่สมุนไพรประเภทต่าง ๆ ก่อนเลือกใช้ - สบู่แต่ละประเภทมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ก่อนเลือกใช้จึงต้องศึกษาสรรพคุณของสบู่แต่ละอย่างให้ละเอียด รวมไปถึงข้อควรระวังในการใช้ด้วย จะมีอะไรนั้น ไปดูกัน

• สบู่ทานาคา: เดี๋ยวนี้มีการนิยมผสมผงดินสอพองลงไปแทนการใช้ทานาคาของจริง หรืออาจลดส่วนผสมของทานาคาลงไป เพื่อประหยัด ทำให้ผลิตภัณฑ์นั้นเสื่อมคุณภาพลง จึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจะปลอดภัยกว่า ก่อนใช้ควรทดสอบอาการแพ้ก่อน โดยการลองถูสบู่บริเวณท้องแขนก่อน แล้วล้างออก หากเกิดอาการคัน หรือเป็นผื่นแดง ให้หยุดใช้ทันที

• สบู่มะหาด: แม้ว่ามะหาดจะช่วยในเรื่องของความขาว และความกระจ่างใสของผิว แต่การใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานานอาจเกิดอันตรายได้ และเช่นเดียวกัน ควรทดสอบอาการแพ้ก่อนใช้โดยการลองถูสบู่บริเวณท้องแขนก่อน แล้วล้างออก หากเกิดอาการคัน หรือเป็นผื่นแดง ให้หยุดใช้ทันที

• สบู่ฟ้าทะลายโจร: อีกหนึ่งสมุนไพรที่มีข้อดีในเรื่องของการขับสารพิษ และบรรเทาอาการอักเสบ แต่ฟ้าทะลายโจรอาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้เช่นเดียวกับสบู่ประเภทอื่น ๆ หากทดลองใช้แล้วเกิดอาการคัน หรือปวดแสบร้อนให้หยุดใช้ทันที เพราะสบู่สมุนไพรนี้ไม่เหมาะกับคุณแล้วล่ะ

• สบู่อัลมอนด์: สบู่น้ำมันธรรมชาติมีข้อเสีย คือ มีอายุการใช้งานน้อย หากหมดอายุแล้วห้ามนำมาใช้เด็ดขาด เพราะน้ำมันในตัวสบู่จะเป็นพิษเข้าสู่ร่างกายเราได้เร็ว และหากเกิดอาการแพ้ ให้หยุดใช้ทันที

4. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ - ปัจจุบันมีสบู่สมุนไพรให้เลือกใช้หลากหลายสูตรมากมาย เราควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน และมีความน่าเชื่อถือ หากเป็นสบู่ที่ผลิตเองตามวิถีชาวบ้าน ควรแน่ใจว่ามีกรรมวิธีการผลิตที่ถูกต้องเหมาะสม และมีส่วนผสมที่ไม่เป็นอันตรายกับร่างกายหลังใช้

วิธีการเก็บรักษาสบู่สมุนไพรให้อยู่ได้นานและไม่เสื่อมสภาพ

1. ไม่ควรเก็บสบู่สมุนไพรไว้ในที่ ที่มีอุณหภูมิสูง หรือมีแสงแดดส่องถึง เพราะจะทำให้ละลายเร็ว

2. ควรเก็บสบู่ไว้ในที่ไม่มีน้ำขัง เพราะจะทำให้สบู่ละลาย ไม่จับตัวเป็นก้อน ดังนั้น ควรเลือกตำแหน่งการวางไว้ที่สูงที่น้ำสาดไม่ถึงนะสาว ๆ

3. ควรวางสบู่ไว้ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก จะทำให้สบู่แห้งเร็วหลังจากการใช้งาน

4. ควรมีภาชนะปิดสบู่หลังใช้งาน เพราะบางครั้งสบู่อาจดูดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในห้องน้ำ ส่งผลให้ประสิทธิภาพของสบู่ลดลงได้

ถึงแม้ว่าสบู่สมุนไพรธรรมชาติจะมีประโยชน์ต่อผิวอย่างมากมายมหาศาลก็ตาม แต่ก็อาจเกิดโทษมหันต์ได้หากใช้งานไม่ถูกต้อง หรือเหมาะสม ดังนั้น ก่อนเลือกใช้สบู่แตะละประเภทให้สาว ๆ พิจารณาข้อมูลเบื้องต้นของตัวเองก่อนว่าตนเองมีสภาพผิวแบบไหน เหมาะกับการใช้สบู่อะไร มีอาการแพ้หรือไม่ และหลังจากใช้งานสบู่แล้ว ก็ควรเก็บรักษาให้ถูกต้อง เพื่อให้สามารถนำสบู่มาใช้งานได้อย่างยาวนานและคงประสิทธิภาพนั่นเอง